Facebook เลือกโพสท์ยังไงให้เราเห็นบนฟีด สรุป จากปากคำของ รองประธาน Facebook

ในงาน 2017’s F8 Summit  Adam Mosseri (VP, News Feed at Facebook) ได้ออกมาไขความกระจ่างในเรื่องของAlgorithm หรือวิธีคิดในการแสดงโพสท์ ให้เห็นบนฟีดของผู้ใข้ (News Feed)

Facebook แสดงผล News Feed แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน

1. Inventory (คลังข้อมูล)

เมื่อผู้ใช้เปิด Facebook ขึ้นมา ระบบ Algorithm จะทำการมองหา โพสท์ของเพื่อนคุณกับโพสของเพจที่คุณติดตาม(Follow) (ต้องเป็นเพจที่คุณไม่ใช่แค่กด Like นะครับ ต้อง Followด้วย ซึ่งปกติ เวลาคุณกด LIKE เพจ ก็จะ Follow เพจนั้นโดยอัตโนมัติ แต่เราเลือกที่จะ ยกเลิกการ Follow หรือ ไม่กด Like เพจแต่ Follow อย่างเดียวก็ได้)

2. Signals(สัญญาณ)

(กดที่ภาพเพื่อขยาย)

สเต็ปนี้ ระบบของ Facebook ทำพิจารณา ข้อมูลจากขั้นแรกเพื่อประมวลผลว่าเรื่องใดที่คุณ”น่าจะสนใจ” บ้าง โดยใช้ข้อมูลที่ Facebook เรียกมันว่า “Signals ” ที่แปลว่า “สัญญาณ” แต่ถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ปัจจัย นั่นแหล่ะครับ โดยปัจจัยเหล่านี้มีเป็นแสนๆปัจจัย เช่น มือถืออะไรที่คุณใข้ ,ความเร็วของเน็ท, ใครเป็นคนโพสท์เรื่อง, เวลาในขณะนั้น ฯลฯ

3. Prediction (ทำนาย)

Facebook รับสัญญาณหรือปัจจัยจาก ข้อ 2 แล้วทำการคาดการณ์พฤติกรรมของเราว่า เราน่าจะคอมเม้นท์มั้ย เราจะใข้เวลาเท่าไหร่กับโพสท์นั้นโพสท์นี้ เราจะแชร์มั้ย ฯลฯ พูดง่ายๆ คิดแทนเราครับ

4. Score (ให้คะแนน)

(กดที่ภาพเพื่อขยาย)

 Facebook Relevance Score

เมื่อ Facebook ทำการคาดการณ์พฤติกรรมของเราจากข้อ 3 แล้วจะทำการคำนวณความน่าจะเป็น จากข้อมูลทั่งหมดที่ได้จากข้อก่อนๆ โดยจะคำนวณค่า Relevance Score หรือ ตัวเลขที่จะบอกว่า เรื่องไหนคุณน่าจะให้ความสนใจบ้าง แล้วนำมาจัดเรียงใน ฟีด

(กดที่ภาพเพื่อขยาย)

Facebook Relevance Score News Feed Ranking

(สำหรับคนที่เคยลง Facebook Ads มาก่อนคงคุ้นๆกับคำนี้นะครับ “Relevance Score “ )

คงพอเข้าใจนะครับว่า ทำไมถึงแม้ว่า บางเพจมีแฟนเยอะแยะ แต่ถ้าโพสท์เรื่องที่ “ไม่” อยู่ในความสนใจของแฟนเพจ โอกาสที่ Reach หรือ การเข้าถึงจะตกก็มีอยู่สูง

แอดมินรับมืออย่างไรกับ ระบบคิดของ Facebook

1. โพสท์เรื่อง ที่เกี่ยวช้องกับสิ่งที่แฟนเพจสนใจ และต้องเกี่ยวข้องกับเพจคุณ

2. นำเสนอเรื่องที่มีคุณค่ากับแฟนเพจ

3. สร้าง Content ที่มีแนวโน้มที่จะได้รับ feedback ทางบวก ซึ่งหมายถึงเวลาโพสท์จะได้รับการกด Like , Love, Haha,wow หรือ มีการ Comment และแชร์

4. ลดผลตอบรับทางลบเช่น Angry หรือ แนวโน้มที่จะกด spam หรือ Report

5 . นำเสนอ Content ที่ต้องไม่ เป็น Clickbait คือ พวกที่พาดหัวชวนให้คลิก แต่พอคลิกไปอ่าน ไม่ได้ประโยชน์หรือแค่หลอกให้คลิกอ่าน อย่างเช่น ลุงวัย 60 ไม่ได้พบหน้าลูกสาวมา 10 ปี แต่เมื่อพบกัน ลูกสาวทำสิ่งนี้จนผู้เป็นพ่อต้องปิดหน้า พอคลิกไปอ่าน พ่อปิดหน้าเพราะร้องไห้ เพราะเห็นลูกสาวก้มกราบ หรือ เรื่องที่ขัดกฎของ Facebook เช่นเรื่องโป๊เปลือย ผิดศีลธรรม

6. สร้างฐานแฟนที่ตรงกับความต้องการของคุณหรือธุรกิจจริงๆ อาจจะใช้ Audience Insights ในการหาความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ก็ได้ (หากใช้ Audience Insight ไม่เป็น แนะนำให้เรียนวิธีใช้ Audience Insights ใน คอร์ส ใช้สถิติ Facebook เป็น ทำกี่เพจก็สำเร็จ )

บทสรุปของ News Feed Algarithm

จะเห็นว่า การทำให้เนื้อหาหรือโพสท์เราได้รับการมองเห็นและสร้าง Engagement ได้ดี ก็ไม่พ้นเรื่องของการทำ Content ที่ตรงใจและให้คุณค่า ไม่ว่าจะคุณค่าทางกายหรือทางใจ แต่หากมีคุณค่าแล้ว Reach ยังล่อแล่ ทีนี้ ต้องพึ่ง Facebook Ads แล้วล่ะครับ ถึงอย่างไร ในยุคนี้ คนทำเพจอยากปั้นเพจให้เกิด ก็ต้องเรียนรู้การลงโฆษณาให้เกิดประสิทธิผลครับ

ขออวยพรให้ทุกท่านสำเร็จ

ครูบอย 

LINE@ ID : kruboydigital

 

ที่มาบทความ : Facebook for Developers และ  Social Examiner

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *