แย่ล่ะซิ…. จำนวนคนเข้าเว็บไซต์น้อยลง ๆๆ เอาไงดีเนี่ย ยุค AI เนี่ย
จากข้อมูลของ Forbes ระบุว่า จำนวน Traffic หรือ การเข้าเว็บของผู้คนลดลงเป็นอย่างมาก อันเนื่องมาจากสิ่งที่ Google เรียกว่า AI Overview ซึ่งลดลงไป 15%-64% คนยังค้นหา Google แต่มักอ่านแค่ AI Overview
นอกจากนั้น ทาง Search Engine Land และหลายสำนัก ยังระบุว่า ผลของ Google AI Overview ทำให้ Organic CTR ลดลงในเดือน ม.ค 2568 เหลือแค่ 0.64 % แต่หากไม่มี AI ก็จะเป็น 3.97 % ก็คือ เห็นเว็บเรา 100 คนใน Google ส่วนที่ไม่โฆษณา แต่กด 3.97 คน นั่นเอง ส่วนหากเราเสียเงินซื้อโฆษณา ก็ลดลงเช่นกัน จาก 17.24 % เหลือเพียง 6.56 %
สิ่งที่น่าสนใจคือ หากเราไปในคำตอบของ AI จำนวน Traffic กลับเพิ่มขึ้น ได้แก่ ผลค้นหาแบบจ่ายตัง จาก 7.89% เป็น 11% และ ผลค้นหาแบบปกติ Organic 0.74% เป็น 1.02%
แบบนี้ ทำทำเว็บ บริหารเว็บจะปรับตัวอย่างไร โพสท์นี้ ครูบอย ให้ไอเดีย สำหรับการก้าวต่อไปสัก 5 ข้อครับ
5 กลยุทธ์ สำหรับนักการตลาดออนไลน์
1. เข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้ใหม่
เมื่อ Google AI Overview แสดงคำตอบทันที ผู้ใช้จะคลิกเข้าเว็บน้อยลง แต่ถ้าอยากข้อมูลลึก หรือเนื้อหาที่น่าเชื่อถือจริง ๆ พวกเขายังต้องการ กดเข้ามาหาแหล่งต้นทาง อยู่ดี
👉 ดังนั้นเว็บต้องเป็นแหล่ง ข้อมูลเชิงลึกและเชื่อถือได้ มากกว่าแค่สรุปสั้น ๆ
2. SEO ไม่ตาย แต่เปลี่ยนบทบาท
จาก SEO ที่เคยเน้น “ติดหน้าแรก” ตอนนี้ต้องหันมาเน้น E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness)
Structured Data / Schema เพื่อบอก Google ชัดเจนว่าเว็บเราคืออะไร เนื้อหาของเราเกี่ยวกับอะไร มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน
ทำคอนเทนต์ให้ทั้ง “อ่านง่ายสำหรับคน” และ “เข้าใจง่ายสำหรับ AI”
3. ยกระดับคอนเทนต์ให้เป็น E-E-A-T ที่แท้จริง เน้น “ประสบการณ์” (Experience)
อย่างที่ครูบอยกล่าวไว้ข้อที่แล้ว เรื่อง EEAT ครูบอยแนะนำให้เพิ่มมุมมองส่วนตัว การทดลองใช้จริง ผลลัพธ์จริง หรือกรณีศึกษาที่ AI ทั่วไปสร้างเองไม่ได้
ตัวอย่างเช่น….. เขียนเล่าขั้นตอนการแก้ปัญหาแบบ Step-by-Step, ใส่รูปภาพหรือวิดีโอที่คุณลงมือทำเอง, อ้างอิงจากข้อมูลภายใน (Internal Data) ของบริษัทคุณ
เพิ่ม Case Study, ประสบการณ์ตรง ทำ How-to แบบละเอียด ที่ AI ตอบสั้น ๆ ไม่ได้ใส่ ความเห็นผู้เชี่ยวชาญ ที่สร้างความต่างจากเว็บทั่วไป
ในเนื้อหาที่เขียน เราก็สร้าง “ผู้เชี่ยวชาญ” ตัวจริง และ ระบุชื่อผู้เขียนที่ชัดเจน มีประวัติความเชี่ยวชาญ และเชื่อมโยงไปถึงโปรไฟล์ของผู้เชี่ยวชาญท่านนั้น เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
4. ปรับโครงสร้างข้อมูลให้ “AI กินง่าย ย่อยสะดวก”
AI Overview ชอบคอนเทนต์ที่จัดระเบียบดี ชัดเจน และตรงประเด็น
ใช้ Schema Markup โดย การติด Structured Data เช่น FAQ หรือ HowTo จะช่วยให้ Google เข้าใจบริบทของข้อมูลได้ง่ายขึ้นมาก
เน้นคำตอบในย่อหน้าแรก เริ่มถามคำถามทั่วไปด้วยตัวเองก็ได้ แล้วคุณก็ตอบแบบ สั้น กระชับ และตรงจุด ภายในย่อหน้าแรก (ประมาณ 40-60 คำ) แล้วค่อยขยายรายละเอียดต่อ เพื่อให้ AI หยิบไปใช้เป็น Summary ได้ทันที
หลักการใช้ Heading และ List อย่างถูกหลัก ยังคง จัดโครงสร้างด้วย H2, H3, และใช้ Bullet Points หรือ Numbered Lists เพื่อให้อ่านง่ายทั้งมนุษย์และ AI
5. เปลี่ยนจาก “Keywords” เป็น “Topics” และ “Long-Tail”
ตอบคำถามที่ซับซ้อน (Long-Tail Queries) โดย มุ่งเน้นการตอบคำถามที่ยาวและซับซ้อน ซึ่งต้องการรายละเอียดสูงและมักนำไปสู่การซื้อขาย (Transactional Intent)
เขียนแบบ “ภาษาธรรมชาติ” (Conversational Tone) เขียนเหมือนกำลังสนทนาหรือตอบคำถามเพื่อน ซึ่งเป็นสไตล์ที่ AI เข้าใจและเลียนแบบได้ดีกว่าภาษาเขียนแบบทางการ
นอกจากนี้ เราก็สามารถ ใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วยคิด ใช้ Generative AI สร้าง โครงร่างบทความ (Outline) หรือ ระดมคำถามที่เกี่ยวข้อง (Related Questions) ก่อนที่คุณจะเติมเต็มด้วยประสบการณ์จริงของคุณเอง
6. Technical SEO คือพื้นฐานที่ต้องแข็งแรงกว่าเดิม
ความเร็วเว็บไซต์ (Page Speed) ต้องเน้น Core Web Vitals อย่างจริงจัง เพราะ AI ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ผู้ใช้ (Page Experience) เป็นอย่างมาก
ต้องทำเว็บในแบบ Mobile-First เว็บไซต์ของคุณต้องแสดงผลได้ดีบนมือถือ 100%
ความสามารถในการ Crawl/Index ตรวจสอบ Google Search Console เสมอว่า Google เข้าถึงและจัดทำดัชนี (Index) หน้าเว็บของคุณได้ถูกต้อง
7. สร้างมูลค่าที่ “คลิกเดียวไม่จบ”
คุณต้องสร้างสิ่งที่กระตุ้นให้ผู้ใช้ “อยากคลิกต่อ” เพื่อมาหาคุณ
สร้างเครื่องมือหรือเครื่องคำนวณ (Interactive Tools): เช่น เครื่องคำนวณราคา, แบบทดสอบบุคลิกภาพ สิ่งเหล่านี้ AI ไม่สามารถสรุปออกมาเป็นข้อความได้
นำเสนอ “การเปรียบเทียบเชิงลึก” หรือ “บทวิเคราะห์เฉพาะทาง”: ที่ต้องการข้อมูลและมุมมองจากมนุษย์จริง
ใช้ประโยชน์จากภาพและวิดีโอ ได้แก่ Optimizing รูปภาพและวิดีโอด้วย Alt Text และ Metadata ที่เหมาะสม เพื่อให้ Google ใช้เนื้อหามัลติมีเดียของคุณในการตอบคำถามแบบ Multimodal Search
8. ใช้ AI มาช่วย ไม่ใช่แค่ระวัง AI
คนทำเว็บควรใช้ AI มาช่วย เช่น หาไอเดียคีย์เวิร์ดใหม่ ๆ สรุปข้อมูลจากหลายแหล่งก่อนเอามาเรียบเรียง ทำ Visual Content เสริมบทความ แต่ อย่า Copy-Paste ตรง ๆ ต้องผ่านการปรับสไตล์และเพิ่มมุมมองของเรา
9. คิดแบบ Omni-channel Marketing
อย่าเอาชีวิตไปฝาก Google อย่างเดียว เพราะต่อให้ติดอันดับ แต่ถ้า Google ตอบเอง คนก็อาจไม่คลิก
👉 ต้องเสริมด้วย Social Media, Email, LINE OA, TikTok, YouTube เพื่อสร้างฐานผู้ติดตามตรงของเราเอง
ติดตาม kruboyDigital.com ได้หลากช่องทาง
- เว็บไซต์ – www.kruboydigital.com
- Facebook – www.facebook.com/kruboydigital
- Instagram – www.instagram.com/kruboydigital
- Tiktok – www.tiktok.com/@kruboydigital
- Youtube – www.youtube.com/kruboydigital
แล้วพบกันใหม่กับเทคนิคการตลาดออนไลน์สุดเจ๋ง ในบทความหน้านะครับ! ถ้ามีคำถามอะไรเพิ่มเติม ถามครูบอย ผ่าน ไลน์ โอเอ ได้เลย ที่ ID : @kruboydigital หรือกดที่ ภาพด้านล่าง