อมรินทร์พริ้นติ้งบูมคอนเทนท์มัลติมีเดีย

“อมรินทร์พริ้นติ้งฯ” จัดแพ็คเกจคอนเทนท์แบบมัลติมีเดีย สู้ตลาดโฆษณาฝืด ชู “บ้านและสวน” นำร่อง ผลิตรายการโทรทัศน์ช่องโมเดิร์นไนน์ เตรียมเข็นนิตยสารน้องใหม่ “เชฟ” วางตลาด เม.ย.นี้ เจาะกลุ่มหญิงรักสุขภาพ

นางสาวระริน อุทกะพันธุ์ กรรมการผู้จัดการสายธุรกิจสำนักพิมพ์ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีนี้ ยังคงให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจคอนเทนท์อย่างครบวงจร โดยบริษัทฯ ได้จัดแพ็คเกจสื่อและกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดจากคอนเทนท์หรือเนื้อหาประเภทเดียวกัน นำเสนอให้แก่ลูกค้าพิจารณาซื้อโฆษณา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดี โดยล่าสุดได้นำคอนเทนท์บ้านและสวน มาผลิตเป็นรายการโทรทัศน์ “บ้านและสวน” ออกอากาศทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี ทุกวันอาทิตย์ เวลา 15.00-15.30 น. นอกเหนือจากที่มีนิตยสารเป็นตัวหลักแล้ว ยังมีเวบไซต์, พอคเก็ตบุ๊ค, งานแฟร์, ทัวร์และฝึกอบรม

สำหรับบ้านและสวน ซึ่งมีอายุครบ 30 ปีในปีนี้ ถือเป็นนิตยสารเล่มหลักที่ทำรายได้ให้กลุ่มอมรินทร์พริ้นติ้งฯ ใกล้เคียงกับนิตยสารแพรว นิตยสารผู้หญิงที่ทำรายได้สูงสุดในบรรดานิตยสารทั้งหมดจำนวน 9 เล่ม ของอมรินทร์พริ้นติ้งฯ อันได้แก่ บ้านและสวน, แพรว, สุดสัปดาห์, ชีวจิต, Health and Cuisine, เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก, รูม, วี และเรียล พาเรนติ้ง

“ในอนาคตคอนเทนท์ที่มีศักยภาพและสามารถนำมาจัดกลุ่มได้อีก น่าจะเป็นกลุ่มสุขภาพและอาหาร ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายการคลับสุขภาพทางช่อง 7 แต่ในแง่ความชัดเจนของเนื้อหายังไม่เท่ากับบ้านและสวน” น.ส.ระริน กล่าวและว่า การตอบรับของผู้โฆษณาในรายการบ้านและสวน ส่วนหนึ่งเป็นผู้ซื้อโฆษณาทางนิตยสาร ซึ่งการจัดแพ็คเกจดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายช่องทาง ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในยามที่การใช้จ่ายงบโฆษณาเป็นไปอย่างระมัดระวัง

สำหรับการขยายธุรกิจของอมรินทร์พริ้นติ้งฯ ในปีนี้ นอกจากจะมีรายการโทรทัศน์เพิ่มขึ้น 1 รายการแล้ว จะผลิตนิตยสารฉบับใหม่ ถือเป็นนิตยสารฉบับที่ 10 ในเครืออมรินทร์ฯ โดยซื้อลิขสิทธิ์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ชื่อ “Shape” (เชฟ) มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพความงามของผู้หญิงในแบบฟิตแอนด์เฟิร์ม จะวางจำหน่ายในเดือนเมษายนนี้

นางสาวระริน กล่าวว่า สำหรับการขยายตัวของบริษัทในปีนี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตจากปีก่อนประมาณ 10% โดยในปี 2548 มีการขยายตัวจากปี 2547 ที่ประมาณ 10% เช่นเดียวกัน หรือมีรายได้รวมที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งรายได้หลักของอมรินทร์พริ้นติ้งฯ จะมาจาก 3 ส่วนเท่าๆ กัน คือ รายได้จากการขายหนังสือเล่ม หรือพอคเก็ตบุ๊ค, รายได้จากการขายนิตยสารและรายได้จากการขายโฆษณา ส่วนรายได้จากรายการโทรทัศน์, ทัวร์และฝึกอบรมจะมีสัดส่วนประมาณ 5%

Updated 6 ก.พ. 2549 – โดย กรุงเทพธุรกิจรายวัน 3 กุมภาพันธ์ 2549

****

เรื่องเก่าจากเว็บไซต์ของครูบอย – thinkandclick dot com (ย้อนดู ต้นฉบับ > https://web.archive.org/web/20111105141144/http://www.thinkandclick.com/news/amarinprinting.php )

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *